แอน จักรพงษ์ ดันละครไทยไปทั่วโลก จับมือช่อง 3 และช่อง 8 ขายต่างประเทศ

แอน จักรพงษ์ ดันละครไทยไปทั่วโลก จับมือช่อง 3 และช่อง 8 ขายต่างประเทศ

แอน จักรพงษ์ JKN ดันละครไทยไปทั่วโลกมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จับมือช่อง 3 และช่อง 8 ขายต่างประเทศ คึกคักสูงสุดในประวัติศาสตร์ เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ประสบความสำเร็จสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้คอนเทนต์ไทยไปสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ภายใต้การบริหารงาน ของซีอีโอคนเก่ง “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” จับมือช่อง 3 และช่อง 8 ส่งออกละครไทยกว่า 5,000 ชั่วโมงมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทขายไปทั่วโลก ยึดครองตลาดคอนเทนต์เบอร์ 1 ของอาเซียน จนเป็นกระแสฟีเวอร์ ประสบความสำเร็จคึกคักสูงสุดในประวัติศาสตร์

แม้ต้นปีจะเจอกระแสดราม่าหนัก 

แต่ความสำเร็จทางธุรกิจกลับเติบโตเพิ่มขึ้นสวนกระแสอย่างไม่หยุดยั้ง เธอได้ข้ามผ่านข่าวฉาวด้วยการนำเสนอผลงานที่มีคุณค่าหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์บ้านเรา นำละครไทย คอนเทนต์ไทย วัฒนธรรมของไทย ไปปรากฏสู่สายตาชาวโลก เข้าสู่ปีที่ 4 แล้วที่เธอจับมือกับพันธมิตรอย่าง บีอีซีเวิลด์ “ช่อง 3” ของกลุ่มมาลีนนท์ไว้วางใจให้เธอถือครองสิทธิ์การนำละครไทยทุกเรื่องของช่อง 3 ขายต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นกระแสฟีเวอร์ไปทั่วโลก โดยเฉพาะแถบอาเซียน

ซึ่งความสำเร็จนี้ยังเดินหน้าต่อเนื่องเพราะได้รับลิขสิทธิ์ครอบคลุมละครใหม่ทั้งหมดทุกเรื่องแม้ยังไม่ได้ฉายในเมืองไทย ไม่เพียงเท่านั้น ปีนี้เธอยังได้จับมือกับอาร์เอส ที่นำทัพโดยเฮียฮ้อ มอบความไว้วางใว้ให้ถือครองลิขสิทธิ์ส่งละครช่อง 8 สู่สายตาต่างประเทศทั่วโลกอีกด้วย

แอน จักรพงษ์ เผยว่า “ละครไทยในต่างประเทศคึกคักสูงสุดเป็นประวัติศาตร์ ซึ่งเป็นปีที่ 4 แล้วที่ JKN ได้รับความไว้วางใจจาก บีอีซีเวิลด์ นำซีรีส์ละครไทยที่ผลิตโดยช่อง 3 ไปทำตลาดสร้างกระแสคอนเทนต์ไทยไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรปและละตินอเมริกา

โดยใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคอนเทนต์เมืองไทย ทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ “ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง” โดยนำเสนอซุปตาร์ดารา อาทิ ณเดชน์ คูกิมิยะ, มาริโอ้ เมาเร่อ, เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข, หมาก-ปริญ สุภารัตน์, โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และ นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ

ด้วยละครน้ำดี เช่น ทองเอกหมอยาท่าโฉลง(Tong Eak), บุพเพสันนิวาส(Love Destiny), อกเกือบหักแอบรักคุณสามี(My Husband in Law) เป็นต้น สร้างปรากฎการณ์ใหม่เป็นกระแสฟีเวอร์โด่งดังไปไกลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบอาเซียน กลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม”

“ปีนี้เรายังได้รับความไว้วางใจจากอาร์เอส ให้นำละครของช่อง 8 ส่งออกไปทั่วโลก อาทิ ละครเรื่อง ภูตรัตติกาล (The Demon King), เชลยศึก (The Legend of Siam Hero), ปอบผีเจ้า (The Thai Vampire Spirit), ทรายย้อมสี (Sparkling Sand), มณีนาคา (Mystical Love), เงาอาถรรพ์ (Mystical Legacy), พยัคฆา (Lycanthrope), เพรงลับแล (Forbidden Destiny), สาปกระสือ (Darkness Curse), ซิ่นลายหงส์ (Curse of Swan) และอีกมากมาย

ทั้งหมดนี้คือละครจากช่อง 3 และช่อง 8 จำนวนรวมกว่า 5,000 ชั่วโมง ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นในหน้าประวัติศาตร์ไทยที่ JKN จะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในฐานะผู้ส่งออกคอนเทนต์คุณภาพชั้นเยี่ยม และส่งต่อถึงความเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลกที่ภาคภูมิใจ”

ปิ๊ง จิดาภา ขอโทษหลังมีดราม่าเปรียบเทียบ หม่อมลูกปลา

หลังจากที่มีข่าวประเด็นดราม่าของยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งที่ได้ลงคลิปเปรียบเทียบผู้หญิงที่มีลักษณะอ้วน (หม่อมลูกปลา โชติกา ขวัญฐิติ) และผอม (ปิ๊ง จิดาภา วัชรสินาพร) โดยเข้าไปขอกอดคนแปลกหน้าในที่สาธารณะเพื่อทดสอบว่าใครจะโดนกอดมากกว่ากัน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ยูทูปเบอร์คนดังกล่าวได้ทำคลิป ‘บูลลี่’ คนอ้วนออกมา

ล่าสุด (21 ก.พ.) ทางปิ๊งได้ออกมาโพสต์ภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเป็นภาพขณะที่กำลังยืนถ่ายรูปคู่กับหม่อมลูกปลาในชุดเดียวกัน พร้อมแนบแคปชั่นขอโทษ เผย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หม่อมลูกปลาถูกมองไม่ดี ระบุว่า

“ต้องขอโทษจริงๆเลยนะคะ ที่เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้หม่อมลูกปลาถูกมองไม่ดี ไม่ได้คิดจะดูถูกอะไรเลยค่ะ แต่คอนเซปต์ที่ทางรายการบรีฟมา คือการ “ช่วยเปลี่ยนหม่อมลูกปลา ให้เป็นคนดูดี” จากการที่หม่อมลูกปลาจะถูกจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์นี้ ซึ่งเป็นภาคต่อของคลิปนี้ จึงรับงาน แต่อาจคิดน้อยไปว่า จะสร้างผลกระทบแบบนี้ก่อน ส่วนตัวจึงขอโทษหม่อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะพิจารณาในการเลือกรับงานให้ดีค่าาา”

เปิดประวัติ ไพโรจน์ ใจสิงห์ จากคุณครู สู่พระเอกชื่อดัง และขึ้นแท่นดาราอาวุโสที่คนในวงการบันเทิงต่างให้ความเคารพ ไพโรจน์ ใจสิงห์ เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2486 ที่ จ.อุตรดิตถ์ และสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนฝึกหัดครูพลานามัย (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ) ก่อนที่จะทำงานเป็นคุณครูที่โรงเรียนสารวิทยา​ และโรงเรียนอำนวยศิลป์พระนคร ควบคู่กับรับงานเล่นดนตรีกลางคืน

เจ้าตัวเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการรับบทพระเอก จับคู่กับ วนิดา อมาตยกุล ในเรื่อง ดวง (2514) ของผู้กำกับชั้นครูอย่าง เปี๊ยก โปสเตอร์ ก่อนที่จะทำงานในวงการบันเทิงเรื่อยมา ซึ่งไพโรจน์ถือเป็นนักแสดงมากความสามารถคนหนึ่ง เพราะเขาผ่านมาแล้วทั้งบทพระเอก ตัวร้าย ตัวโจ๊ก หรือบทคุณพ่อสุดเฮี้ยบ

ด้านชีวิตส่วนตัว ไพโรจน์ สมรสกับ โซติรส ใจสิงห์ (นก) และมีบุตรด้วยกันทั้งหมด 9 คน

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์