Mustang Mach-E รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก Ford ม้าป่าที่มาในคาบของ SUV เตรียมเปิดของ 17 พ.ย.นี้

Mustang Mach-E รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก Ford ม้าป่าที่มาในคาบของ SUV เตรียมเปิดของ 17 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 14 พฤษจิกายนที่ผ่านมา Ford ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของอเมริกาได้มีการเผยกับสื่อว่า กำลังมีการเตรียมการเปิดให้จองรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์รุ่นใหม่. โดย Ford มีแผนจะเปิดให้จองในกลุ่มลูกค้าประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนนาดาและยุโรป ในวันที่ 17 พฤษจิกายน. ทาง Ford คอนเฟิร์มว่ารุ่นยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้จะใช้ชื่อว่า Mustang Mach-E.

นี่ถือว่าเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่ยุคใหม่แห่งยนตกรรมและ Mustang Mach-E 

จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกและเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าหลายๆรุ่นที่ทาง Ford มีแผนที่จะเปิดตัวภายในปี 2022 ด้วยเม็ดเงินการลงทุนกว่า $11.5 พันล้านเหรียญฯ. นอกจากนี้ทาง Ford และ General Motor ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการร่วมพัฒนารถยนต์กระบะไฟฟ้าอีกด้วย.

เช่นเดียวกับผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันอย่าง Tesla ที่ออกมาบอกว่ากำลังจำมีการเปิดตัวรถยนต์กระบะไฟฟ้าสมรรถณะสูงเร็วๆนี้. หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะเข้มข้นมากกว่านี้ ค่ายรถชั้นนำต่างๆจะเริ่มทะยอยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองออกมาแข่งขันในตลาดกันมากขึ้นและเมื่อความปลากหลายเกิด การแข่งกันก็ยิ่งจะสูงขึ้น.

การนำชื่อ Mustang ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและโด่งดัง มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็น SUV เรียกได้ว่าเป็นความตั้งใจที่จะลบภาพจำและหนีออกจากวัฒนธรรมการจัดหมวดหมู่รถยนต์ไฟฟ้าไว้ในกลุ่ม “Green” หรือรถยนต์สีเขียวรักโลก เช่นเดียวกับผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ที่ใช้ในเรื่องของความเร็วและพละกำลังเป็นจุดขาย และเทคโนโลยีต่างๆในการรดึงดูดลูกค้า.

นี่เป็นการยืดระยะเวลาต่อเนื่องจากครั้งที่แล้วที่มีการยืดเวลาให้ถึง 90 วัน ซึ่งใกล้จะหมดในเร็วๆนี้. นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าหัวเว่ยกับสหรัฐกำลังมีการเจรจาเพื่อขยายระยะเวลาออกไปแบบระยะยาว ซึ่งอาจจะถึง 6 เดือน แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีฝ่ายใดออกมายืนยันและให้ความเห็นใดๆ.

ถึงแม้จะยังไม่ถูกปลดออกจากบัญชีดำ แต่การได้ใบอนุญาตขยายระยะเวลาออกไปก็ยังเป็นเรื่องที่ดีสำหรับหัวเว่ยและกลุ่มบริษัทในอเมริกาต่างๆที่ยังอยากทำารค้ากับหัวเว่ยอยู่. นี่ถือว่าเป็นหนึ่งสัญญาณที่ดีสำหรับหัวเว่ย โดยเฉพาะความหวังที่จะได้กลับมาใช้ Android เวอร์ชั่นเต็มพร้อม Google Play Services และแอ้พหลักอย่าง Play Store, Search, Maps, Gmail, YouTube และอื่นๆ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้สำหัญอะไรกับสมมาร์ทโฟนเวอร์ชั่นที่ขายเฉพาะในจีน แต่สำหรับส่งขายทั่วโลก Google คือคีย์หลัก.

Huawei Mate X เปิดขายวันแรก เกลี้ยงสต็อกในไม่กี่นาที

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม Huawei ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนแบบพับได้รุ่นแรกของทางค่ายภายใต้ชื่อ Huawei Mate X แต่แต่ถึงจะเปิดตัวไป แฟนก็ต้องรอเก้อกันอีกพักใหญ่. ทางหัวเว่ยบอกว่า เครื่องจริงจะพร้อมในในเดือนตุลาคม. ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา Huawei ได้มรการเปิดให้ลงทะเบียนและพรีออเดอร์ Huawei Mate X ล่วงหน้า. ล่าตอนดูเหมือนว่า Huawei Mate X จะพร้อมวางจำหน่ายจริงๆแลฃ้วใจประเทศจีน

แต่ดูเหมือนว่า Huawei จะด้วยที่ประเมินความต้องการของหลุ่มลูกค้าต่ำไปหรือผลิตสิ้นค้าจริงล็อตแรกมาจำนวนจำกัดก็ไม่ทราบ เพราะหลังการเปิดขายไม่กี่นาที Huawei Mate X ก็ขายหมดเกลี้ยงสต็อก. แน่นอนผลตอบรับดีขนาดนี้ Huawei ก็ไม่รอช้าสั่งเพิ่มสินค้าพร้อมประการวันเปิดขายรอบใหม่ 22 พฤษจิกายนนี้.

Huawei มาพร้อมกับหน้าจอแบบ OLED กางออกด้านนอก เมื่อกสงออกสุดจะมีขนาด 8 นิ้ว และเมื่อพับเข้ามี จะมีกน้าจอสองด้านทั้งหน้าและหลัง. ด้านหน้าหลักจะมีขนาด 6.6 นิ้ว ที่อัตราส่วน 19.5:9 และด้านหลังมีขนาด 6.38 นิ้วในลักษณะจอแบบทรงสูง. ใช้ขุมพลังเป็นชิพเซ็ต HiSilicon Kirin 980 (7 นาโนเมตร) แบบ Octa-core รองรับ 5G พร้อม RAM 8GB และหน่วยความจำที่ 512GB .

Huawei Mate X มาพร้อมแบตเตอรี่ 4500 mAh และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge ที่เรียกว่าเร็วที่สุด ณ ตอนประกาศเปิดตัวเลยก็ว่าได้ที่ 55 วัตต์ ชาร์จจาก 0-85% ได้ในเวลา 30 นาที(ตอนนี้เจ้าอื่นน่าจะมีชาร์จไวกว่านี้). มาพร้อมกล้อง 4 ตัว ที่ 40 ล้านพิกเซลที่ค่า f/1.8 เท่าระยะ 27มม. (wide) 8 ล้านพิกเซลที่ค่า f/2.4 เท่าระยะ 52มม. (telephoto) 16 ล้านพิกเซลที่ค่า f/2.2 ระยะเลนส์ 17มม.(ultrawide) และ TOF 3D camera. กับราคาค่าตัวที่ 16,999 หยวน คิดเป็นเงินไทย ณ ตอนนี้ก็ประมาณ 74,000 บาท.

สื่อต่างประเทศรายงานความเคลื่อนไหวว่าสุดเกี่ยวกับว่าที่แท็ปเล็ตรุ่นและสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปจากค่ายผลลไม้ โดยมีการคาดการณ์ว่า Apple มีแผนที่จะเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020. มีการสันนิจฐานว่า iPad Pro รุ่นต่อไปจะมาพร้อมกับกล้องหลังแบบกล้องคู่ พร้อมระบบ 3D sensing พร้อมเซ็นเซอร์ใหม่สำหรับ AR และระบบ time-of-flight หรือ ToF ที่สามารถวัดแสงที่ตกกระทบกับวัตถุและสะท้อนกลับไปเพื่อใชในการสร้างเป็น 3D map.

เช่นเดียวกับว่าที่สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดอย่าง iPhone SE 2 ก็มีการคาดการณืว่าจะเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันกับ iPad Pro ใหม่. โดย iPhone SE 2 จะมีการใช้ดีไซน์จาก iPhone 8 แต่เพิ่มลูกเล่นภายในให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของชิพประมวลผลที่คาดว่าจะใช้เป็นตัว A13 Bionic แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 11 พร้อม RAM 3GB

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น